ดูซีรี่ย์ the boys season 1 – 3 รวม ซีซั่น 1 ถึง ซีซั่น 3

ซีรีส์เรื่อง “ก๊วนหนุ่มซ่าล่าซูเปอร์ฮีโร่ ซีซั่น 1” บอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นของซีรีส์ที่มีเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ที่รวมตัวเพื่อล้างแค้น โดยมี “บิลลี่ บุตเซอร์” อดีต CIA ผันตัวมาเป็นอัศวินศาลเตี้ย โดยที่มีพรรคพวกร่วมก๊วนทั้ง “เอ็มเอ็ม” หนุ่มที่มีลูกเมียแล้วแต่อยากล้างแค้นให้พ่อก็เลยมาร่วมด้วย หรือ “ฮิวอี้ แคมป์เบล” หนุ่มอดีตนักขายเครื่องเสียงที่นิสัยต่างจาก “บิลลี่” อยู่มาก และอีกคนที่ขาดไม่ได้คือ “เฟรนชี่” พ่อค้าติดยาที่ให้ที่พักกับแก๊งค์เหล่านี้ ก่อนที่จะมีหญิงเพิ่มอีกคนคือ “คิมิโกะ” ที่แม้จะเป็นใบ้แต่ก็มีพลังพิเศษและกำลังตามหาครอบครัว แต่ทว่าก็มีเรื่องราวหลายเหตุการณ์มากมาย แต่จะมีบทสรุปเป็นอย่างไรต้องติดตาม

“ก๊วนหนุ่มซ่าล่าซูเปอร์ฮีโร่ ซีซั่น 1” เป็นเรื่องราวที่มีพล็อตค่อนข้างน่าสนใจ โดยที่แต่ละคนจะมีพลังต่าง ๆ ทั้งเหาะได้ มองทะลุผนัง ดวงตายิงแสงเลเซอร์ หรืออื่น ๆ ที่ทำให้การแก้แค้น ไล่ล่าน่าสนใจมาก ๆ โดยที่คุณจะได้เข้าถึงตัวละครมากขึ้น การดำเนินเรื่องกระชับ รวดเร็ว ดูแล้วไม่ได้สร้างความสับสนอะไรมากมาย โปรดักชั่นสร้างบรรยากาศได้ดี ทั้งการตัดต่อ มุมกล้อง แสง สี เสียงที่สร้างอรรถรสรับชมมากขึ้น โลเคชั่นการถ่ายทำก็สร้างบรรยากาศได้ กราฟฟิก CG ไม่ต้องพูดถึงคือปังสุดอ พาอินตามในหลายฉาก ด้านนักแสดงแต่ละคนก็ไม่ธรรมดา สื่อสารความต้องการ อารมณ์ต่าง ๆ เป็นธรรมชาติ หากใครที่ชื่นชอบแนวแบบนี้นี่เป็นอีกเรื่องที่หากพลาดไปเสียดายแย่

ซีรีส์เรื่อง “ก๊วนหนุ่มซ่าล่าซูเปอร์ฮีโร่ ซีซั่น 2” เป็นเรื่องราวของก๊สนเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ที่มีความเข้มข้นในเรื่องราวสถานการณ์ ความสัมพันธ์มากขึ้นกว่าเดิม รุนแรงกว่าเดิม โดยที่ “บุตเชอน์ ฮิวอี้” และทีมก็ยังไม่มั่นใจ เสียศูญอยู่ที่มีการสูญเสียเกิดขึ้นในซีซั่น 1 ที่ผ่านมา ทำให้พวกเขาเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ต้องกลายเป็นผู้ร้ายหลบหนี แต่ก็ยังต้องต่อสู้กับเหล่าซูเปอร์ฮีโร่อยู่ และเมื่อบริษัทควบคุมฮีโร่วอทได้ทำเงินจากความตื่นกลัวจากคำขู่ของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ และยังมีฮีโร่คยใหม่ “สตอร์มฟรอนด์” มาเกี่ยวข้องอีก กลายเป็นความท้าทายที่ก่อเกิด และสุดท้ายจะเป็นอย่างไรก็ต้องไปติดตามกันห้ามพลาด!

“ก๊วนหนุ่มซ่าล่าซูเปอร์ฮีโร่ ซีซั่น 2” เป็นซีรีส์ที่น่าสนใจโดยที่จะเป็นการดำเนินเรื่องต่อจากซีซั่น 1 ที่มีความน่าสนใจ มีความเข้มข้นมากขึ้น โดยมาในแนวแอคชั่น คอมเมดี้ ไซไฟ ที่มีทั้งสิ้น 8 ตอน กระชับ รวดเร็ว ดูแล้วสนุกมากยิ่งกว่าเดิม ด้านโปรดักชั่นมีความอลังการเช่นเคย ใช้โลเคชั่นถ่ายทำที่สมจริง กราฟฟิก CG ที่เนียนมาก มองแทบไม่ออกเลย เสียงดนตรีประกอบ การตัดต่อ มุมกล้อง แสง สี เสียงที่สร้างอรรถรสรับชมมากขึ้น แน่นอนว่าอีกเรื่องที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือนักแสดงที่แต่ละคนก็ยังคงสื่อสารอารมณ์ ความต้องการ ความรู้สึกนึกคิดที่เป็นธรรมชาติได้ดี พาเราอินตามแบบจัด ๆ เลยเชียว เรื่องนี้ได้ทั้งผู้กำกับและผู้เขียนบทที่ใส่ใจรายละเอียดอย่างดี ใครที่ติดตามซีซั่น 1 แล้วล่ะก็ยิ่งต้องดูซีซั่นนี้ต่อเลยจริง ๆ